วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

บทที่ 1 ความหมายและความสำคัญของมารยาทและการสมาคม

                                       
ความหมายและความสำคัญของมารยาทและการสมาคม
มารยาท คือ การแสดงออกทางกิริยา วาจา และเป็นที่ยอมรับของสังคมว่าถูกต้อง ดีงาม น่าเชื่อถือ
การสมาคม คือ การรวมกลุ่มของคนตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน หรือมีวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน
มารยาทในการสมาคม หมายถึง พฤติกรรมต่าง ๆ ที่แสดงออกทางกาย ทางวาจาที่สุภาพเรียบร้อยดีงาม เหมาะสมกับ
กาละเทศะ และเป็นที่ยอมรับของสังคม
มนุษยสัมพันธ์และการสร้างมนุษยสัมพันธ์
มนุษยสัมพันธ์ คือ การสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีของบุคคล เพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจ
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งจะทำให้การดำรงชีวิตร่วมกันอย่างราบรื่น ตลอดจนสามารถทำงานด้วยกัน
อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ทุกฝ่ายได้รับความพึงพอใจ
การสร้างมนุษยสัมพันธ์ คือ ศิลปะในการโน้มน้าวจิตใจคคนด้วยการสร้างความผูกพันอันดีต่อกัน
มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่ยึดถือเอาความคิดของตนเป็นหลัก รู้จักยืดหยุ่นผ่อนปรนเอาใจเขามาใส่ใจเรา
จึงจะนำมาซึ่งความรัก ความเข้าใจ ความเชื่อถือศรัทธายกย่องให้เกียรติและไว้วางใจก่อให้เกิดความเข้าใจ
และความร่วมมือที่ดีในการทำงานต่าง ๆ อันจะนำมาซึ่งความพอใจ และความสำเร็จในงานนั้น ๆ
มนุษย์สัมพันธ์มีความเกี่ยวพันกับชีวิตตลอดทั้งชีวิต เริ่มตั้งแต่เกิดแล้วเข้าสู่วัยการศึกษา การทำงาน
และการดำรงชีวิตในสังคมต่างๆ
- มนุยษสัมพันธ์ในครอบครัว เกี่ยวพันกันระหว่างพ่อ แม่ ลูก และญาติที่ใกล้ชิดภายในครอบครัวเดียวกัน
- มนุยษสัมพันธ์ในโรงเรียน เมื่อเข้าสู่วัยการศีกษาเล่าเรียน โรงเรียนจะฝึกอบรมให้มีการมนุยษสัมพันธ์ เพราะมีการพบปะกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่แตกต่างจากสมาชิกในครอบครัว
- มนุษยสัมพันธ์ในที่ทำงาน เมื่อจบการศึกษาออกไปประกอบอาชีพ จำเป็นต้องพบปะกับผู้บังคับบัญชา
และเพื่อนร่วมงานการมีมนุษยสัมพันธ์จะมีความสำคัญมากขึ้น
- มนุษยสัมพันธ์ในสังคมต่างๆ นอกจากการพบปะคุ้นเคยตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว โอกาสที่จะพบปะกับบุคคลอื่นในสังคมด้วยการไปร่วมงานต่างๆ
บุคลิกภาพและการปรับปรุงบุคลิกภาพ
บุคลิกภาพ(Personality) คือ ลักษณะท่าทางเฉพาะตัวบุคคล ที่ทำให้แต่ละบุคคลมีความแตกต่างกัน ซึ่งประกอบด้วย รูปร่างหน้าตา กิริมารยาท อุปนิสัยใจคอ อารมณ์ ทัศนคติ และความสามารถ
การปรับปรุงบุคลิกภาพ
(1) ด้านร่างกาย ให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี โดยยึดหลัก 5 อ.มีดังนี้
อาหาร รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตามที่ร่างกายต้องการ พิจารณาว่าส่วนใดจะเพิ่มหรือลด
ควรเสริมส่วนใด้ ลดส่วนใด ร่างกายจะได้แข็งแรงและสมส่วนตามวัย
อากาศ สูดอากาศบริสุทธิ์ในตอนเช้ามืด เช่น ตามชายทะเล ป่าเขา หรือสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่าน
ออกกำลังกาย ทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เส้นเอ็น เลือดลม ทุกส่วนของร่างกายได้เคลื่อนไหว
จะได้ไม่มีการเจ็บปวด ขัดยอก ตึง แน่น ปวดเมื่อย ตามร่างกาย
อารมณ์ ฝึกตนให้เป็นบุคคลอารมณ์ดี จิจใจเบิกบานแจ่มใสมีความสุข หน้าตาจะได้สดใสไปด้วย
อุจจาระ ฝึกตนให้ขับถ่ายทุกวันไม่ท้องผูก จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย
(2) ด้านนิสัย ฝึกนิสัยให้เป็นคนมีความมั่นใจ มีความกระตือรือร้นใฝ่รู้ มุมานะพยายาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ช่วยเหลือและให้อภัยแก้ผู้อื่นเสมอ
(3) ด้านสังคม ได้แก่ การแต่งกายให้เหมาะสมกับวัย ผิวพรรณ กาลเทศะ และสภาพฐานะจองตนเป็นผู้ฟังที่ดี สนใจและให้เกียรติกับผู้ที่สนทนาด้วย
(4) ด้านการรู้จักตนเอง การยอมรับความจริงไม่เข้าข้างตนเอง เปิดโอกาสให้คนใกล้ชิดชี้จุดบกพร่องต่างๆ
เพื่อเป็นแนวทางที่จะสามารถนำข้อบกพร่องมาแก้ไข
ลักษณะบุคลิกภาพที่ดี
แต่งกายประณีต เหมาะสมกับวัย และกาลเทศะ
มารยาทดี พูดจาสุภาพ ไพเราะอ่อนหวาน เลือกใช้คำพูดได้เหมาะสมกับเวลา และสถานที่
ไม่เครียด ซื่อตรง เปิดเผย ร่าเริงแจ่มใส มีอารมณ์ขัน ซึ่งเป็นเสน่ห์ในการสนทนากับคนทุกวัย
มีน้ำใจนักกีฬา รู้จักให้อภัยกับผู้ที่ยอมรับผิด
รักษาคำพูด ตรงเวลา ไม่ผิดพลาดเวลาในการนัดหมาย
มีวิสัยทัศน์กว้าง มีความเข้าใจให้เกียรติและให้โอกาสแก่ผู้อื่นเสมอ

มีความหนักแน่น มีเหตุผลรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น